SIDEBAR
»
S
I
D
E
B
A
R
«
ROR Draw image by RMagick
Nov 20th, 2010 by batt

require ‘RMagick’
include Magick


result = Magick::Image.new(1000, 725){ self.background_color = ‘#FFFFFF’ }
watermark = Magick::Image.read(“#{RAILS_ROOT}/public/logo/watermark.png”).first
logo = Magick::Image.read(“#{RAILS_ROOT}/public/logo/logo_xxx.png”).first
signature1 = Magick::Image.read(“#{RAILS_ROOT}/public/logo/sig1.png”).first
signature2 = Magick::Image.read(“#{RAILS_ROOT}/public/logo/sig2.png”).first
student_img = Magick::Image.read(“#{RAILS_ROOT}/public/images/gui/user_90x90.png”).first
result = result.composite(watermark, Magick::CenterGravity, 0, 0, Magick::OverCompositeOp)
result = result.composite(logo, Magick::NorthGravity, 0, 20, Magick::OverCompositeOp)
result = result.composite(signature1, Magick::NorthGravity, -250, 600, Magick::OverCompositeOp)
result = result.composite(signature2, Magick::NorthGravity, 250, 600, Magick::OverCompositeOp)
result = result.composite(student_img, Magick::NorthGravity, 345, 50, Magick::OverCompositeOp)

line1 = Draw.new
result.annotate(line1, 1000,30, 0, 200, “xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx”){
line1.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
line1.gravity = Magick::NorthGravity
line1.pointsize = 18
line1.fill = “#000000”
line1.font_weight = Magick::BoldWeight
}

line2 = Draw.new
result.annotate(line2, 1000,30, 0, 240, “วุฒิบัตรฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า”){
line2.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
line2.gravity = Magick::NorthGravity
line2.pointsize = 18
line2.fill = “#000000”
line2.font_weight = Magick::BoldWeight
}

student_name = Draw.new
result.annotate(student_name, 1000,30, 0, 280, “#{courses_student.prefix} #{courses_student.firstname}? #{courses_student.lastname}”){
student_name.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
student_name.gravity = Magick::NorthGravity
student_name.pointsize = 18
student_name.fill = “#000000”
student_name.font_weight = Magick::BoldWeight
}

detail = Draw.new
result.annotate(detail, 1000,30, 0, 340, “ได้เข้าฝึกอบรม #{certificate_template.detail}”){
detail.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
detail.gravity = Magick::NorthGravity
detail.pointsize = 18
detail.fill = “#000000”
detail.font_weight = Magick::BoldWeight
}

if courses_student.is_certified
detail2 = Draw.new
result.annotate(detail, 1000,30, 0, 370, “และผ่านเกณฑ์การประเมินผลสัมฤทธิ์การอบรม”){
detail2.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
detail2.gravity = Magick::NorthGravity
detail2.pointsize = 18
detail2.fill = “#000000”
detail2.font_weight = Magick::BoldWeight
}
end

line3 = Draw.new
result.annotate(line3, 1000,30, 0, 4100, “xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx”){
line3.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
line3.gravity = Magick::NorthGravity
line3.pointsize = 18
line3.fill = “#000000”
line3.font_weight = Magick::BoldWeight
}

line4 = Draw.new
result.annotate(line4, 1000,30, 0, 440, “xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx”){
line4.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
line4.gravity = Magick::NorthGravity
line4.pointsize = 18
line4.fill = “#000000”
line4.font_weight = Magick::BoldWeight
}

line5 = Draw.new
result.annotate(line5, 1000,30, 0, 470, “xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx “){
line5.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
line5.gravity = Magick::NorthGravity
line5.pointsize = 18
line5.fill = “#000000”
line5.font_weight = Magick::BoldWeight
}

line6 = Draw.new
result.annotate(line6, 1000,30, 0, 500, “xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx”){
line6.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
line6.gravity = Magick::NorthGravity
line6.pointsize = 18
line6.fill = “#000000”
line6.font_weight = Magick::BoldWeight
}

thai_mon = [“”, “มกราคม”, “กุมภาพันธ์”, “มีนาคม”, “เมษายน”, “พฤษภาคม” “มิถุนายน”, “กรกฎาคม”, “สิงหาคม”, “กันยายน”, “ตุลาคม”, “พฤศจิกายน”, “ธันวาคม”]
date = Draw.new
result.annotate(date, 1000,30, 0, 540, “ให้ไว้ ณ วันที่ #{Date.today.day} เดือน #{thai_mon[Date.today.mon]} พ.ศ. #{Date.today.year + 543}”){
date.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
date.gravity = Magick::NorthGravity
date.pointsize = 18
date.fill = “#000000”
date.font_weight = Magick::BoldWeight
}

sig2_name = Draw.new
result.annotate(line6, 1000,30, 250, 668, “(xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx)”){
sig2_name.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
sig2_name.gravity = Magick::NorthGravity
sig2_name.pointsize = 18
sig2_name.fill = “#000000”
sig2_name.font_weight = Magick::BoldWeight
}

sig2_desc = Draw.new
result.annotate(line6, 1000,30, 250, 688, “xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx”){
sig2_desc.font = “#{RAILS_ROOT}/public/fonts/TH_Niramit_AS_Bold.ttf”
sig2_desc.gravity = Magick::NorthGravity
sig2_desc.pointsize = 18
sig2_desc.fill = “#000000”
sig2_desc.font_weight = Magick::BoldWeight
}

filename = “#{directory}/cert_#{@course.id}_#{courses_student.student_id}_#{courses_student.student_id}.jpg”
result.write(filename)

lshw
Nov 5th, 2010 by batt

lshw | more

ทายนิสัยจากตัวอักษรที่ขึ้นต้นอีเมล์ของคุณ
Jul 7th, 2010 by batt

เชื่อแน่ๆว่าคุณๆคงมี อีเมล์ กันอย่างน้อยก็คนละชื่อล่ะค่ะ?จะอยู่@อะไรประเดนนี้ไม่เกี่ยว ที่เกี่ยวคือชื่ออีเมล์ของคุณที่ใช้อยู่ เป็นประจำนั่นเองว่า ขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใด ซึ่งสามารถทำนายได้ เพราะมันเป็นชื่อที่คุณคัดสรรเอง

ขึ้นต้นด้วย A J S แสดงว่าคุณเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ ถ้าจะทำงานสักชิ้นต้องเป็นงานที่โดดเด่นได้แสดงออกถึงความสามารถของตน นอกจากนั้นจะเป็นพวกชอบเดินทาง ผจญภัย ถ้ามีแฟนจะเป็นคนที่ไม่ให้คำสัญญาใดๆที่เป็นการผูกมัด(เอ?.ดีมั๊ยเน๊ย)

ขึ้นต้น B K T เป็นคนร่าเริงกระฉับกระเฉงชอบโต้แย้งความคิดเห็น ชีวิตของคุณจะดำเนินไปตามความรู้สึกและอารมณ์ ไวต่อสิ่งรอบข้าง ไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งนาน ค่อนข้างไฮเปอร์ แต่เป็นคนที่ไม่ยอมย่อท้อต่อปัญหาที่เข้ามาในชีวิต

ขึ้นต้น C L U เป็นคนมองโลกในแง่ดี อ่อนโยน เข้ากับคนง่าย มีความสามารถพิเศษในการติดต่องาน แต่มีโลกที่ผู้อื่นยากเข้าถึง ไม่ค่อยเผยแพร่ความต้องการของตัวเองให้คนอื่นรู้ ชอบทำงานศิลปะ ให้ความสำคัญกับจิตนาการ

ขึ้นต้น D M V ค่อนข้างมีระเบียบในชีวิต ทั้งเรื่อง ส่วนตัว ครอบครัว ทำงาน ทำอะไรก้อต้องเรียบร้อยหมด ไม่ขอบขีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลง เท่าไหรนัก เป็นคนขยัน หนักแน่น อดทน เหมาะกับการเป็นผู้นำ

ขึ้นต้น E N W มีนิสัยซอกแซก เห็นทุกเรื่องน่าสนใจไปหมด ชอบทดสอบ ทดลองทุกอย่างด้วยตนเอง เป็นพวกอยากรู้อยากลอง แต่ถ้าเป็นเรื่องของคุณใครอย่ามายุ่ง จะปิดบังไว้อย่างดี เป็นคนขี้ระแวงไปนิด ไม่เชื่อใครง่าย จนกว่าจะได้พิสูจน์ว่า เค้าดีจริง

ขึ้นต้น F O X เป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจกับทุกคน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เกลียดการกระทำที่หยาบคาย ให้ความสำคัญกับครอบครัวอันดับหนึ่ง อยากให้คนใกล้ชิดมีความสุขรักใคร่กัน แต่ข้อเสียคือ ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบหนีปัญหา

ขึ้นต้น G P Y เป็นคนรักความปราณีต จะต้องให้สมบูรณ์ทุกกระบวน ชอบความหรูหราเริ่ดหรู รสนิยมดี รักศักดิ์ศรี ไม่ยอมใครง่ายๆแตถ้าเจอคนถูกใจแล้วเท่าไหรก้อเท่ากัน ยอมได้ทุกอย่าง

ขึ้นต้น H Q Z มีน้ำอดน้ำทนสูงกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเป็นปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องอื่น เข้าใจโลกและเข้าใจชีวิต เป็นนักแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบอย่างมีเหตุผล ไม่ค่อยวางใจคนอื่น เพราะมีความเชื่อมั่นเป็นหลัก

ขึ้นต้น I R เป็นนักอุดมคติ มีความคิดทันสมัย บางครั้งถึงขั้นล้ำสมัย ชอบหาเหตุและผลให้กับทุกเรื่อง ชอบทำงานเพื่อส่วนรวม มีน้ำใจ ใจเปิดกว้าง เปิดโอกาสให้คนอื่นแสดงความคิดเห็น แม้ตัวเองจะไม่เห็นด้วย

เหตุการณ์สุดคลาสสิกของอาชีพโปรแกรมเมอร์
Jun 13th, 2010 by batt

สังเกตดูดีๆ คนที่ทำงานสาย Software Developer นั้น จะเจอเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอดชีวิตการทำงานสายนี้ และต่อไปนี้ขอเชิญอ่าน เหตุการณ์สุดคลาสสิคของโปรแกรมเมอร์
* โปรเจ็คที่ได้รับมักจะดูเหมือนง่ายในตอนแรก แต่สับสนวุ่นวายในตอนสุดท้าย
* การให้โปรแกรมเมอร์ทำเอกสาร เปรียบเสมือนเอานาวิกโยธินสหรัฐไปประกวดนางสาวไทย
* ตอนเขียนโปรแกรมเอง Test เอง ไม่เจอ Bug แต่ตอนไป Test กับลูกค้าเสือกเจอ!!!
* ตอน Test กับลูกค้าเหมือนจะไม่มีบั้กแล้ว พอเริ่มใช้งานระบบจริง แม่ง เสือกเจอ!!!
* พอโปรแกรมพังตอนใช้งานจริง โปรแกรมเมอร์มักเอ่ยว่า “ตอน Test ไม่เห็นเป็นเลย” แล้วก็จบด้วยการทำหน้างงๆ แสดงให้เห็นว่า กูไม่รู้จริงๆนะเว้ย
* ประเมินเวลาของโปรเจ็ค 10 วัน ไม่ใช่การเขียนโปรแกรม 80 ชั่วโมงต่อคน แต่อาจะเป็น 100ชั่วโมงต่อคน หรือมากกว่านั้น
* Programmer เก่งกาจจะเป็น System Analyst ทำเอกสารได้ห่วยแตก
* Programmer ที่เก่งกาจมันพูดภาษาคนแล้วเข้าใจยาก
* System Analyst ที่ทำเอกสารได้เก่งกาจ มักจะเคยเป็น Programmer ที่เขียนโปรแกรมได้ห่วยแตกมาก่อน
* ลูกค้าไม่เคยให้ Requirement ครบ
* ลูกค้าคือพระเจ้า
* นอกจากลูกค้าแล้ว Google ก็เป็นพระเจ้าเหมือนกัน
* งาน Coding ไม่เคยเสร็จก่อนกำหนด
* ออกแบบระบบจนเสร็จ แล้วค่อยเขียนโปรแกรม เป็นแค่เรื่องในฝันเท่านั้น (สำหรับคนไทย)
* คนให้ Requirement จริงๆ มักจะไม่ค่อยอยากได้ระบบ IT หัวหน้ามันนั้นแหละ อยากได้
* บางที Bug ก็ไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการคำจำกัดความ
* Bug ก็เหมือนความรัก มองไม่เห็น แต่รู้สึกถึงมันได้
* ไม่มี OT มีแต่ O-Free
* Project ที่ โปรแกรมเมอร์ปั่นงานจะจนดึกดื่น มักจะมี Bug เยอะ ถึงเยอะมาก
* ลูกค้ามักจะขี้เกียจ Test โปรแกรมของมันเอง
* แต่พอใช้งานจริงแล้วเจอ Bug ชอบมางอแง
* เขียนโปรแกรมช้า ใช่ว่าจะไม่มี Bug
* เขียนโปรแกรมเทพ ใช่ว่าจะไม่มี Bug
* สรุปว่าเขียนยังไงโปรแกรมก็มี Bug
* การแก้ Code ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองเป็นเรื่องที่น่าปวดกบาลมาก
* Code ยิ่งเทพเท่าไหร่ แก้ Bug ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น
* และคนเขียน Code เทพ มักจะโดนสาปแช่งจาก Programmer ที่ต้องมาแก้งานมัน
* ถ้าโปรแกรมช้า เราจะโทษว่า Server ไม่ดี
* System Analyst ที่แก้ Design บ่อยๆ มักจะอ้างกับ Programmer ว่า “ก็ลูกค้ามันเปลี่ยน”
* System Analyst ที่เพิ่ม Requirement บ่อยๆ มักจะอ้างกับ Programmer ว่า “ก็ลูกค้ามันขอเพิ่ม”
* Programmer ที่ทำงานไม่ทัน มักจะอ้างว่าประเมินเวลามาน้อยเกินไป
* มีความเชื่อว่า Application ไม่ต้องการความสวยงาม
* Requirement สามารถเปลี่ยน เพิ่ม ได้ตลอดเวลา แต่มันไม่มีทางลดลงแน่นอน
* การเล่น Internet ไร้สาระ คือการผ่อนคลาย
* การเล่น MSN คือการผ่อนคลาย
* การเล่น Social Network เป็นการผ่อนคลาย
* ด่าลูกค้าเป็นความบันเทิง และผ่อนคลาย
* Internet มีทุกอย่างที่โปรแกรมเมอร์ต้องการ
* พิมพ์สัมผัสได้ เป็นผลจาการ Chat อันหนักหน่วง
* มีความเชื่อว่า ถ้าพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยความรุนแรง จะดูเท่
* คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า โปรแกรมเมอร์ทำได้ทุกอย่างที่เกียวกับ Computer
* ดังนั้น โปรแกรมเมอร์เป็นที่พึ่งให้ เพื่อนๆ พ่อ แม่ พี่น้อง อากง อาม่า เวลามีปัญหากับเทคโนโลยีใหม่ๆ
* ไม่มีโปรแกรมเมอร์คนไหน กลับบ้านตรงเวลาตลอด
* ชีวิตจะบัดซบทุกครั้ง ที่ไฟดับ
* ตอน Present โปรแกรมให้ลูกค้าดู ต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนทุกครั้ง
* เวลาขี้เกียจแก้งาน โปรแกรมเมอร์จะบอกว่า “Code ตรงนี้กูไม่ได้เป็นคนเขียนครับ”
* เวลาโปรแกรมมีปัญหา ลูกค้ามักจะบอกว่า “ยังไม่ได้ไปทำอะไรมันเลยนะ อยู่ๆก็ใช้ไม่ได้”
* โปรแกรมเมอร์ว่างงาน มักง่วงตอนสายๆ หรือบ่ายๆ
* คาเฟอีนคือยาวิเศษ
* การนั่งหลับเวลาง่วงมักไม่ค่อยได้รับความยอมรับจากหัว หน้า
ปล.และอื่นๆอีกมากมาย
34 คำถามที่ผู้ชายเคยสงสัย แต่ผู้หญิงไม่เคยตอบ
May 30th, 2010 by batt

เนื้อหาย่อ : มาดูว่าความลับของผู้หญิงมีอะไรบ้าง

1. เวลาผู้หญิงเข้าห้องน้ำ จะเปิดซิปกระโปรงหรือ ถลกเอา?
ตอบ : แล้วแต่สะดวก แต่ส่วนมากถลก

2. ผู้หญิงสวมกระโปรงยาวเป็นคนเรียบร้อยใช่ไหม?
ตอบ : ไม่เสมอไป อาจเป็นแฟชั่น

3. มีเสื้อผ้าเต็มตู้ จนไม่มีช่องว่างให้แมลงสาบหายใจ แต่ทำไมยังบอกว่าไม่มีอะไรจะใส่?
ตอบ : ก็หาที่ถูกใจกับอารมณ์วันนี้ยังไม่ได้ หรืออาจจะเรียกให้ดูดีหน่อยอาจจะบอกว่า เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละวัน หรือว่าแฟชั่นช่วงนั้น

4. ทำไมผู้หญิงต้องมุ่งมั่นเอากับการทำให้ผมตรงเรียบ แบบเอาเป็นเอาตายด้วย?
ตอบ : แล้วจะให้มันยุ่งทำไมละ (ก็นั่นนาเซ่..)

5. สวมร้องเท้าส้นสูงแหลมๆทำไมถึงทรงตัวได้?
ตอบ : เป็นพรสวรรค์ตั้งแต่ชาติก่อน (อ่อเหรอ)

6. ไอ้เจ้ามาสคาร่านะ มันจะทำให้ดูดีขึ้นเหรอ?
ตอบ : โคตรๆ ถ้ายาวทิ่มตาผู้ชายได้ จะแฮปปี้สุดๆ (อิเจ๊โรคจิต )

7. น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเป็นโศกนาฏกรรมชีวิตเลยหรือ?
ตอบ ไม่ใช่แค่น้ำหนัก แต่รวมถึงเอว ตะโพก พุง ต้นแขน ต้น ขา และรอบคอ

8. ต้องการอะไร ทำไมไม่พูดตรงๆและทำไมต้องคิดว่าผู้ชายต้องเป็นผู้หยั่งรู้ดินฟ้าด้วย
ตอบ : อ้าว! ไม่รู้นี่ว่า ผู้ชายไม่ฉลาด (ไม่น่าถามเร๊ย…)

9. เวลาคนอุ้มท้อง นอนหงายหรือนอนตะแคง?!
ตอบ : ทั้งสองอย่าง แล้วแต่ความเมื่อย

10. ทำไมต้องเติมแป้งที่ใบหน้าอยู่ตลอดเวลา
ตอบ : อยากสวย (งั้น..ปกติคงไม่…ล่ะสิ)

11. เป็นโสดทำไม?
ตอบ : ที่หาได้ก็ไม่ดี ที่ดีๆก็หาไม่ได้ (ไอ่ที่หาได้แล้วดีๆ ก็ปล่อยหลุดไปซะนี่)

12. ผู้หญิงตายด้าน มีหรือเปล่า?
ตอบ : ผู้หญิงที่ตายด้านก็เพราะคำตอบข้อ 11 นั่นแหละ

13. ทำไมต้องมีร้องเท้าหลายสิบคู่ด้วย มันต่างกันยังไง?
ตอบ : ทำไมผู้ชายถึงชอบมีเมียที่ละหลายคน มันต่างกันยังไง (แหม ถ้ามีเยอะขนาดนั้นได้ก็ดีน่ะสิ 10คู่ = 20คน)

14. ทำไมฝีมือการขับรถของผู้หญิงไม่เป็นสับปะรดเอาซะเลย?
ตอบ : ก็เพิ่งรู้ตอนคุณถาม แต่ผู้หญิงก็ไม่ได้เมาแล้วขับ เอ๊อๆๆๆ (แต่เมาแล้วขี่…)

15. ทำไมผู้หญิงชอบกินผลไม้ดอง?
ตอบ : แล้วทำไมผู้ชายชอบดื่มเหล้า ดูดบุหรี่ (ผมเลิกแล้ว เด๋วนี้หันมาดูดบุรุษ)

16. เวลาคุณเสยผม แปลว่าเชิญชวนใช่ไหม?
ตอบ : ไม่ว่ากันถ้าจะคิดอย่างนั้น ขนาดผู้หญิงด่าคุณ ยังหาว่า ผู้หญิงชอบ (ไม่ด่าอย่างเดียวนะ เด๋วนี้มีเหยียดเท้าด้วย)

17. ไอ้กระเป๋าสะพายราคาเป็นหมื่นๆนั้น มันวิเศษยังไง?
ตอบ : แล้วสุราราคา แพงๆทำไมคุณบอกว่าอร่อยกว่าราคาถูกทั้งๆที่ดื่มแล้วก็เมาเหมือนกัน (แล้วถ้าผมปั่นจิ้งหรีดแทนกินเหล้า คุณจะใช้ถุงก๊อปแก๊ปออกงานป่ะ )

18. กลัวลิปสติกเลอะเวลากินข้าว แล้วทำไมต้องทาก่อนออกไปกินข้าวด้วย?
ตอบ : คำตอบเดียวกันกับ คุณรู้ว่าเที่ยวผู้หญิง นอกใจเมีย เสี่ยงต่อการเป็นเอดส์ แล้วทำทำไม (เพิ่งรู้ว่าทาลิป มันเร้าใจขนาดนั้นเชียว)

19. ส้มตำเป็นยาอายุวัฒนะเหรอ?
ตอบ : ก็อยากผอม สวย และเอาใจผู้ชายอย่างคุณไง (ผอม สวย และเอาใจ ไม่เท่าไหร่ ชอบเสียงเผ็ดซี๊ดซ๊าดของคุณเร้าใจกว่า…)

20. ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้น เพราะอยากอวดให้ผู้ชายเห็นเรียวขาหรือเปล่า?
ตอบ : ใช่ แต่ไม่ได้แค่อวดกับผู้ชายนะกับผู้หญิง ถ้าฉันขาสวย ฉันก็อยากอวดพวกหล่อนด้วยเหมือนกัน (อุเหม่…ชะนีโชว์เหนือ)

21. ในการปฏิบัติกิจพิเศษ ผู้หญิงสามารถรับได้สูงสุดกี่หนในคราวเดียว?
ตอบ : ผู้ชายทำได้กี่หนก็รับได้เท่านั้นแหละ ว่าแต่จะทำได้หรือเปล่าเหอะ ()

22. เสื้อชั้นใน ตะขอหน้ากับตะขอหลัง มันต่างกันตรงไหน?
ตอบ : ตะขอหน้าสำหรับผู้ชายมือใหม่ ตะขอหลังสำหรับขั้นเทพ คุณละ ขั้นไหน (เทพมือใหม่งับป๋ม)

23. เวลามีรอบเดือน เจ็บปวดหรือเปล่า?
ตอบ : เจ็บปวด ไม่ทุกคนและก็ไม่ทุกครั้ง

24. คุณซัก กางเกงในกันบ่อยแค่ไหน?
ตอบ : บ่อยเท่าที่จะทำได้ นุ่งซ้ำไม่ลงเหมือนคุณหรอก (เฮ้ย! ไม่ซ้ำ หน้าA หน้าB ซ้ำที่ไหนกัน)

25. ผู้ชายเก่งกับผู้ชายรวย อย่างไหนมีน้ำหนักกว่ากัน
ตอบ : ถ้าทั้งเก่ง ทั้งรวย น้ำหนักจะดีมากๆ (ผู้ชายอ้วนจิ น้ำหนักดีมากๆ)

26. ทำไมคุณเดินช้อปปิ้งโดยที่ไม่ เหมื่อย ไม่เหนื่อย ไม่เบื่อกันเลย
ตอบ : เวลาที่คุณดื่มสังสรรค์กับเพื่อนคุณถึงสว่าง คุณไม่อยากเลิก ไม่เหนื่อย ไม่เบื่อ บ้างหรือ

27. เพชรมันสวยยังไง ทำไมใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของกันหนักหนา
ตอบ : ก็มันสวยกว่าก้อนหินนี่ (ขอบคุณ)

28. คุณนอนหลับท่าไหนกันบ้าง
ตอบ : ทุกท่าที่ทำให้หลับสบาย (ขอบคุณอีกที)

29. จุดยุทธศาสตร์ของผู้หญิงน่ะ จริงๆแล้วมีตรงไหนบ้าง
ตอบ : ถามแฟนคุณจะดีที่สุด (โทดทียังมะมีอ่า…)

30. คุณเคยช่วยตัวเองใช่ไหม
ตอบ : คุณถามเพราะไม่รู้จริงๆเหรอ (จิงจิ๊ง….)

31. ผู้หญิงบ้างคนทำอาหารไม่เป็นเลยจริงๆหรือว่าแกล้งทำ
ตอบ : ทำน่ะ มันทำได้ แต่จะขาดรสอร่อย (ก็ถูก)

32. ทำไมผู้หญิงวิตกจริตกันเอามากๆ
ตอบ : คุณเรียกว่าวิตกจริตแต่ผู้หญิงเรียกว่า กลัว (จ้าๆ)

33. ทำไมผู้หญิงถึงได้ตั้งใจและเรียนเก่งกันนัก
ตอบ : ก็เพราะผู้หญิงขับรถไม่เป็นสับปะรดไง (เกี่ยวเรอะเจ๊ )

34. ยามเข้านอน คุณสวมชุดชั้นในกันหรือเปล่า
ตอบ : แล้วแต่คนส่วนมาก ไม่ (ผมก็ไม่..ทั้งชั้นในและ นอก)

SIDEBAR
»
S
I
D
E
B
A
R
«
»  Substance:WordPress   »  Style:Ahren Ahimsa